การทำ SEO ให้ธุรกิจติดอันดับการค้นหาส่งผลดีอย่างไร

การทำ SEO ให้ธุรกิจติดอันดับการค้นหาส่งผลดีอย่างไร

ธุรกิจที่เริ่มมีเว็บไซต์ของตัวเองอยากเป็นที่รู้จักมากขึ้นควรศึกษาการตลาดออนไลน์ที่เรียกว่า SEO หรือ Search Engine Optimization คือการโปรโมทเว็บไซต์ให้คนเห็นมากขึ้น โดยใช้วิธีการปรับแต่งเนื้อหาและโครงสร้างของเว็บไซต์ที่ช่วยให้ง่ายต่อการค้นหาบนระบบการค้นหายอดฮิตอย่าง Google ทำอย่างไรให้เว็บไซต์มีอันดับที่ดีขึ้นมาดูกันเลย

คุณสมบัติของเว็บไซต์ต้องเป็นอย่างไรจึงอยู่ในเกณฑ์การจัดอันดับของ Google สิ่งนั้นประกอบด้วยคุณภาพของเนื้อหาที่อ่านง่าย มีประโยชน์ และทันยุคสมัย ประกอบกับประสิทธิภาพของเว็บไซต์ที่ไม่ยุ่งยากซับซ้อน ค้นหาสิ่งที่ต้องการง่าย มีลิงก์เชื่อมโยงหน้าต่าง ๆ ความเร็วในการโหลด ความปลอดภัยของเว็บไซต์ และแสดงผลบนมือถืออย่างเหมาะสมสนองตอบความต้องการของผู้ค้นหาได้เป็นอย่างดี ประสบการณ์และความพึงพอใจของผู้ใช้งานถือเป็นปัจจัยสำคัญทำให้ใช้งานเป็นเวลานานและกลับมาใช้งานซ้ำอีกซึ่งส่งผลต่อการจัดอันดับ SEO ด้วย

การทำ SEO ไม่ได้เน้นเฉพาะการสร้างโอกาสให้ผู้ใช้งานเห็นเว็บไซต์มากที่สุดทำให้มีโอกาสอ่านเนื้อหาบทความในเว็บไซต์ คุณภาพของเนื้อหาบทความจึงมีความสำคัญไม่แพ้กัน เนื้อหาที่น่าอ่าน รวมไปถึงการจัดทำรูปภาพและคลิปวิดีโอที่ช่วยอธิบายเนื้อหาได้ดียิ่งขึ้น จำเป็นต่อการทำเว็บไซต์เพื่อโปรโมทแบรนด์ธุรกิจให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง และช่วยเพิ่มโอกาสปิดยอดขายสินค้าหรือบริการเร็วขึ้น

กลยุทธ์ SEO ส่งผลให้มีคนเข้าชมเว็บไซต์มากขึ้น ผลลัพธ์การค้นหาที่น่าพอใจและเนื้อหาที่มีประโยชน์ช่วยให้ตัดสินใจซื้อได้ง่าย ถือเป็นการทำการตลาดออนไลน์ที่มีประสิทธิภาพ เพิ่มยอดติดตาม และลดต้นทุนการโฆษณาในระยะยาว หากเว็บไซต์ได้รับการจัดอันดับอยู่ในหน้าแรกๆ ของ Google แสดงให้เห็นว่าได้รับการยอมรับและสร้างความน่าเชื่อถือมากขึ้น

เนื้อหาบทความที่มีคุณภาพ แสดงข้อมูลในเชิงลึก มีความละเอียดและตรงประเด็นทำให้เห็นว่าธุรกิจมีความเชี่ยวชาญในสินค้าหรือบริการนั้นจริงๆ จะทำให้เจาะใจลูกค้าเป้าหมายได้ดีขึ้น ก่อนเขียนบทความควรวางแผนให้ดีว่าจะเขียนให้ลูกค้ากลุ่มไหนอ่าน เพื่อให้เนื้อหาและกลวิธีการเขียนถูกใจกลุ่มเป้าหมาย เรื่องความยาวของบทความไม่ใช่ปัจจัยหลักทำให้ติดอันดับ แต่ถ้าบทความสั้นเกินไปก็ขาดความละเอียด หรือบทความยาวเกินไปก็ขาดความน่าสนใจ ลองศึกษาจากพฤติกรรมผู้ใช้แล้วเลือกความยาวที่เหมาะสม อาจจะอยู่ระหว่าง 500-700 คำ หรือบางเนื้อหาอาจต้องการข้อมูลที่มีความละเอียดระหว่าง 1,500-3,000 คำ

สำหรับคีย์เวิร์ดที่เป็นส่วนสำคัญทำให้การทำ SEO ติดอันดับง่ายขึ้น ควรเป็นคีย์เวิร์ดที่ตอบโจทย์ความต้องการและจุดประสงค์ของผู้ค้นหาได้ดีที่สุด หากยังใหม่ต่อการทำ SEO ลองศึกษาจากเว็บไซต์คู่แข่งและพฤติกรรมการค้นหาของผู้ใช้งานว่าใช้คำใดบ่อย ๆ วิเคราะห์แล้วนำมาปรับใช้ให้เหมาะสมกับเว็บไซต์จะเพิ่มโอกาสดึงที่มีแนวโน้มจะมาเป็นลูกค้าให้ตัดสินใจซื้อได้ง่ายมากขึ้นด้วย บทความที่เขียนดี ตอบโจทย์ให้ผู้อ่าน ทำให้กลับมาใช้ซ้ำและบอกต่อเพื่อทำให้ยอดเข้าชมเพิ่มขึ้นซึ่งจะส่งผลดีต่อยอดขายในอนาคต